แม้ว่าเราจะเดินทางคนเดียวมาก็หลายครั้ง แต่จากทริปล่าสุด รัสเซีย – ญี่ปุ่นครั้งนี้ก็ไม่วาย
ตกรถไฟ ตกเครื่องบิน ต้องเปลี่ยนแผนเดินทางแบบเดี๋ยวนั้น ฯลฯ
เราเลยคิดว่าน่าจะมาเล่าความผิดพลาด พร้อมข้อระวังต่างๆที่เป็นบทเรียนจากทริปนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ หลักๆเรามี 3 เรื่องที่ทำให้เราตกรถไฟ และเครื่องบิน ต้องเปลี่ยนแผนต่างๆเพราะความเลินเล่อเหล่านี้
1. ความรอบคอบ
เรื่องหลักที่นำไปสู่ความหายนะต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เดินทางคนเดียว เพราะไม่มีใครมาคอยสะกิดนะ เบลอแล้วเบลอเลย เพราะฉะนั้นสติสำคัญมากเลย ตัวอย่างมีอย่างเช่น
- เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางเสมอโดยเฉพาะแต่ละสนามบินให้ไปถึงอย่างน้อย 3 ชม.ไปเลย อย่าเก๋าไปแบบพอดีเวลา (คุณไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันมันเกิดขึ้นได้เสมอ) เราเก๋ามาแล้วมันไม่คุ้ม และควรเช็คอินล่วงหน้าเสมอ อย่างน้อยถ้าไปสาย (แบบไม่มาก) เค้าอาจจะรอเรา
- เช็คเอกสาร และทุกตั๋วที่ทำการจองไป อย่ามั่นใจเกินไปว่าจำเวลาและวันที่ต่างๆได้ชัว บางทีเราก็เบลอกันได้ เราเกือบอดดูบอลโลกรอบชิงฯ ด้วยเพียงเหตุผลว่าเข้าใจและมั่นใจว่าเตะ 9 pm แต่จริงๆเตะ 6 pm ซึ่งเราไม่ได้แม้แต่จะหยิบตั๋วมาดูเวลาอีกทีเลยทั้งวัน (มั่นใจอะไรขนาดนั้น!)
- เช็คอากาศก่อนเดินทางเสมอ ในหลายๆเมืองที่เดินทางในทริปอาจมีอากาศที่ต่างกันมาก ทริปนี้อากาศร้อนมากในหลายเมือง แต่เราเอาเสื้อยืดที่หนาๆไป เกือบเอาตัวไม่รอด
- เตรียมยาสามัญไว้เป็นประจำในทุกทริปที่เดินทาง ทริปนี้เราท้องเสีย ถ้าไม่พกยาไว้น่าจะลำบาก เราเคยไม่สบายมากๆตอนไปเวียดนาม ไม่มีใครพูดอังกฤษได้ การซื้อยาลำบากมาก นอกจากจะแพงแล้วอาจได้ยามาผิดตัวด้วย
2. เวลา
- เผื่อเวลาเรื่องการเดินทางเสมอ เช่นตอนไป event ที่คุณจอง หรือไปสนามบิน หลายๆครั้งเรามั่นใจมากไปว่าประมาณเวลาดี แต่ลืม factors อื่นๆที่ทำให้ซวยได้ไปเช่น สำหรับ security check ในทางเข้า หรือจำนวนคนที่เยอะมากใน terminal ของสนามบิน (ซึ่งแต่ละเมืองรูปแบบการ check-in ไม่เหมือนกัน ) อันนี้ยังไม่รวมถึงรถที่ติดในเมือง หรือเวลาที่เสียไปเพราะเจ้าหน้าที่ไม่พูดอังกฤษด้วย อ้อ บางที google map ก็พึ่งพาเวลาที่เราต้องการเวลาแบบแม่นยำไม่ได้หรอก เหตุทั้งหมดนี้ทำเราตกเครื่องครับ
- เช็คตารางเวลาของรถไฟ และการเดินทางอื่นๆให้ชัดเจน การพลาดเพียงไม่ 1- 2 นาทีส่งผลให้คุณตกเครื่องแบบเราได้เลย หลายๆครั้งถ้าทำได้ไปซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง 1 วันไปเลย และจด timetable ไว้ด้วยจะดีมาก จะทำให้คุณไม่เสียเวลา shock กับการติดต่อสอบถามผู้คน
3. การวางแผนอนาคต
- การเดินทางบางครั้ง หลายๆคนอาจจะคิดว่าไปคิดเอาข้างหน้าก็ได้ว่าจะไปไหน ไม่อยากเที่ยวแบบตึงๆเกินไป เราขอบอกว่าไม่แนะนำ หลายๆครั้งแผนที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ทำให้แผนหลักของคุณกระทบได้ อาจทำให้คุณไปดูโชว์ไม่ทัน หรืออดไปหลายๆที่เพราะคุณต้องเสียเวลามากไปกับการนั่งรถข้ามไปมาในแต่ละที่หลายสิบนาที ทางที่ดีวางแผนเป็นโซน หรือ area ในแต่ละวันไว้ก่อนจะดีมากถ้าคุณไม่อยากระบุสถานที่ไปเลยนะ
- หลายๆครั้งถ้าเราพักในย่านสถานีใหญ่อาจทำคุณชิบหายได้เลย ถ้าไม่วางแผนการเดินทางดีๆ ล่าสุดเราพักแถวชิบูย่า และเนื่องจากสถานีนี้ทางออกเยอะ และกระเป๋าเราก็ใบใหญ่ ทำให้การเดินทางไปที่พักแสนจะทรหด ยกไปมาขึ้นบันได เพราะเราไม่รู้ว่าทางออกไหนมีลิฟต์ การทำการบ้านหรือติดต่อรร.ล่วงหน้าเกี่ยวกับเส้นทางก็เป็นวิธีที่ดีให้คุณไม่ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องพวกนี้ (google map มันก็ไม่ได้ช่วยขนาดนั้น)
- สำหรับใครที่ไม่อยากพกเงินเยอะ ชอบใช้บัตร การเช็ควิธีการใช้เงินของแต่ละประเทศล่วงหน้าไว้ก็ดี อย่างตอนไปรัสเซีย เราเจอปัญหาการรูดบัตรเพราะต้องใส่ code ซึ่งเราไม่มีหรือจำไม่ได้ ทำให้เราซื้อของไม่ได้ (จริงๆเหมือนเป็นรหัสกดเงินนี่แหละของบัตรเครดิต แต่คนไทยจำของตัวเองไม่ได้กัน เพราะไม่ค่อยใช้กด) ดีที่เรามีบัตรแบบ paywave ไปด้วย ใช้จ่ายได้เลยรอดไป
- อื่นๆเราว่าเรื่องพวกแลกเงิน ปลั้กต่างๆ และเอกสารการจอง คนไทยไม่น่าพลาดอยู่แล้ว แต่ก็ทำ checklist ไว้ก็ดีนะครับ กันลืม
เรื่องเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำของคนที่เพิ่งซวยมาหยกๆครับ อยากจะบอกว่าคนใกล้ตัวผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดกับผมได้เพราะเดินทางมาเยอะ แต่บางทีเรื่องนี้ล่ะที่ทำให้เราชิว และละเลยเรื่องที่ต้องระวังไป เลยอยากให้ทุกคนระวังและรอบคอบกับทุกทริปการเดินทางนะครับ เพราะเมื่อคุณพลาดแล้วมันไม่คุ้มเลยที่จะต้องเสียทั้งเงิน และบางประสบการณ์อาจมีแค่ครั้งเดียวซึ่งทดแทนไม่ได้แล้ว (เรายังโกรธตัวเองจนวันนี้ที่ได้ดูบอลโลกแค่ครึ่งเดียว) ขอให้ทุกคนไม่พลาดนะครับ และมีความสุขกับการเดินทาง
ถึงสาวรัสเซียมั้ยครับ